เมื่อลูกน้อยมีอายุครบ 6 เดือน กล้ามเนื้อของเค้าจะเริ่มแข็งแรงเพียงพอที่จะอยู่ในอิริยาบถอื่นนอกจากท่านอนได้แล้ว ดังนั้นอุปกรณ์สำคัญที่จะช่วยฝึกให้ลูกนั่งและทรงตัวได้ก็คือ “เก้าอี้กินข้าวเด็ก” (High Chair) ที่จะเข้ามาช่วยให้ลูกเรียนรู้การนั่ง หยิบอาหารทานได้เอง และทำกิจกรรมต่าง ๆ อย่างอิสระ ถือเป็นการช่วยฝึกกล้ามเนื้อ ฝึกโฟกัส และยังช่วยให้ลูกได้เพลิดเพลินไปกับการเรียนรู้ในเรื่องต่าง ๆ โดยมีคุณพ่อคุณแม่ดูแลอยู่ใกล้ ๆ อีกด้วย และในบทความนี้เราก็ได้รวบรวมข้อมูลที่ควรรู้ก่อนที่จะเลือกซื้อเก้าอี้เด็ก รวมถึงเก้าอี้กินข้าวเด็ก ยี่ห้อไหนดี ที่ปลอดภัย คุ้มค่า และใช้งานได้เอนกประสงค์ หากพร้อมแล้วก็ไปดูพร้อมกันเลย
เก้าอี้กินข้าวเด็ก ใช้ตอนกี่เดือน ?
เมื่อลูกน้อยมีอายุประมาณ 4 เดือน กล้ามเนื้อบริเวณคอของเค้าจะเริ่มแข็งขึ้น ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่จึงสามารถเริ่มฝึกให้เค้านั่งโดยการใช้เก้าอี้เด็กได้ แต่ทั้งนี้ต้องใช้เป็นเก้าอี้เด็กโดยเฉพาะ ไม่ควรใช้เก้ากี้ทั่วไป เนื่องจากเก้าอี้เด็กจะสามารถรองรับกับสรีระร่างกายของทารกอย่างพอดี ไม่ทำให้รู้สึกปวดหรือส่งผลให้กระดูกหลังงอ และถ้าหากเป็นไปได้ควรใช้เก้าอี้สลับกับการนั่งบนพื้นที่มีฟูกนิ่ม รวมถึงบนหน้าตักของคุณพ่อคุณแม่ เพื่อสร้างความหลากหลาย พร้อมกระตุ้นให้ลูกได้ฝึกการทรงตัว แถมลูกยังรู้สึกสนุกที่ได้เล่นและได้ใช้เวลากับคุณพ่อคุณแม่อีกด้วย
เก้าอี้กินข้าวเด็ก แบบไหนดี ?
หากแบ่งเก้าอี้กินข้าวเด็กตามรูปทรง ประเภทของเก้าอี้จะมีให้เลือก 3 แบบด้วยกัน นั่นก็คือ
- เก้าอี้เด็กทรงสูง : หากที่บ้านของคุณใช้โต๊ะทานข้าวแบบสูง แนะนำให้เลือกเก้าอี้กินข้าวเด็กทรงสูง เพื่อให้ลูกน้อยนั่งอยู่ในระดับสายตาของผู้ใหญ่ และง่ายต่อการดูแล นอกจากนี้เก้าอี้ทรงสูงส่วนใหญ่จะสามารถปรับระดับได้ และมาพร้อมที่วางเท้า จึงทำให้เค้านั่งได้สบายกว่าเก้าอี้แบบอื่น ๆ
- เก้าอี้เด็กติดโต๊ะ : เก้าอี้กินข้าวเด็กชนิดนี้จะเอาไว้ใช้หนีบติดกับโต๊ะ และสามารถพับเก็บได้ จึงเหมาะกับคุณพ่อคุณแม่ที่ชอบความสะดวก หรือชอบพาลูก ๆ ออกไปเที่ยวข้างนอกบ่อย ๆ แต่ก่อนเลือกซื้อควรเช็คว่าเก้าอี้นั้น ๆ รองรับน้ำหนักสูงสุดเท่าไหร่ เพื่อความปลอดภัยของทารก
- บูสเตอร์ซีท : บูสเตอร์ซีจะเป็นเก้าอี้ทรงเตี้ยที่มีสายรัดอยู่ในตัวเพื่อความปลอดภัย โดยจุดเด่นจะอยู่ตรงที่มีความแข็งแรงทนทาน รองรับน้ำหนักได้เยอะ บางรุ่นสามารถพับได้ จึงใช้งานค่อนข้างสะดวก เหมาะสำหรับเด็กโตที่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้บ้างแล้ว
เก้าอี้กินข้าวเด็ก เลือกยังไง ?
เมื่อรู้จักกับเก้าอี้กินข้าวทารกแต่ละประเภทไปแล้ว ทีนี้เรามาดูกันดีกว่าว่าจะเลือกเก้าอี้อย่างไร เพื่อการใช้งานที่เหมาะสมกับลูกน้อยมากที่สุด
วัสดุที่ใช้ผลิต
วัสดุที่ใช้ผลิตเก้าอี้กินข้าวเด็กจะมีหลายประเภท แต่ละแบบจะมีข้อดีแตกต่างกันไป เริ่มที่เก้าอี้ไม้เนื้อแข็ง มีข้อดีตรงที่แข็งแรง ไม่แตกหักง่าย และรองรับน้ำหนักได้เยอะ ส่วนเก้าอี้พลาสติก มักจะมาพร้อมกับเข็มขัด และมีน้ำหนักเบา จึงทำให้เคลื่อนย้ายและจัดเก็บได้สะดวก สุดท้ายคือเก้าอี้โพลียูรีเทน จะช่วยมอบสัมผัสนุ่ม ทำให้ลูกนั่งสบาย แถมยังกันน้ำได้ และทำความสะอาดง่ายอีกด้วย
เลือกเก้าอี้กินข้าวเด็กที่เหมาะสมกับช่วงวัย
เก้าอี้เด็กมีหลากหลายรูปทรงและขนาด ซึ่งออกแบบมาให้เหมาะกับเด็กในแต่ละช่วงวัย รวมถึงขนาดตัวที่แตกต่างกัน ยกตัวอย่างเช่น เก้าอี้กินข้าวทารก จะมีขนาดที่เล็กกว่า และมาพร้อมขอบสูงเพื่อป้องกันอุบัติเหตุไม่ให้เด็กตกจากเก้าอี้ ส่วนเก้าอี้เด็กอายุ 1 ปีขึ้นไปที่สามารถนั่งเองได้แล้ว ตัวเก้าอี้จะดีไซน์ใกล้เคียงกับเก้าอี้ที่ผู้ใหญ่ และมีความหนามากกว่า เพื่อรองรับน้ำหนักที่มากขึ้น เป็นต้น
เลือกเก้าอี้กินข้าวเด็กพับได้
แม้ว่าเก้าอี้กินข้าวเด็กส่วนใหญ่จะถูกใช้งานภายในบ้าน แต่ถ้าเป็นเก้าอี้ที่พับได้ ก็จะทำให้การจัดเก็บง่ายดายยิ่งขึ้น ซึ่งคุณสมบัตินี้มีประโยชน์อย่างมาก โดยเฉพาะในบ้านที่มีพื้นที่จำกัด หลังใช้งานเสร็จก็พับและวางเก็บในมุมที่ต้องการได้เลย ยิ่งไปกว่านั้นคุณพ่อคุณแม่ยังสามารถนำเก้าอี้กินข้าวเด็กพับได้ไปใช้นอกสถานที่ได้ด้วย เพราะสถานที่บางแห่งจะไม่มีเก้าอี้เด็กมาให้ ดังนั้นเก้าอี้แบบพับได้เนี่ยแหละ จะช่วยเสริมความปลอดภัยให้กับลูกน้อยในทุสถานการณ์
มีฟังก์ชันหลากหลาย
เก้าอี้กินข้าวทารกที่มีเบาะนิ่มรองนั่ง จะทำให้ลูกนั่งสบาย อีกทั้งเบาะยังเป็นตัวช่วยลดความลื่นของพนักพิงและที่นั่งได้ จึงลดความเสี่ยงที่ลูกจะไถลตกลงมา หรือจะเลือกเป็นเก้าอี้นั่งกินข้าวเด็กที่มีฟังก์ชันในการปรับระดับเอนนั่ง หรือนอนได้หลายระดับ ก็จะช่วยให้ใช้งานได้หลากหลายกับทุกกิจกรรม ไม่ว่าจะพักผ่อนหรือเล่นก็ตาม อีกทั้งยังใช้งานได้ยาวนานตั้งแต่แรกเกิดจนลูกโต
เก้าอี้กินข้าวเด็ก ยี่ห้อไหนดี ?
คุณพ่อคุณแม่มือใหม่อาจยังสับสนไม่รู้ว่าจะเลือกเก้าอี้กินข้าวเด็ก ยี่ห้อไหนดี ด้วยเหตุนี้เองเราจึงได้รวบรวมเก้าอี้เด็กคุณภาพดี และคุ้มค่าสมกับราคามาให้ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการเลือกซื้อกัน
1. High Chair BooneMall
ราคาเก้าอี้กินข้าวเด็ก 1,099 บาท
เริ่มต้นที่เก้าอี้กินข้าวเด็กคุณภาพดีที่ราคาประหยัด แต่การใช้งานครบครัน รองรับการปรับระดับสูง-ต่ำให้ใช้งานได้หลากหลาย น้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายได้สะดวก มาพร้อมถาดรับประทานอาหารพลาสติก 2 ชั้น เกรดสำหรับใส่อาหาร ปราศจากสาร BPA ถอดเช็ดล้างทำความสะอาดได้ง่าย และปรับเข้าออกได้ อีกทั้งยังมีเบาะรองนั่งเป็นแบบผ้านุ่มนิ่ม กันน้ำได้ ลูกน้อยนั่งสบายตัว แถมเพิ่มความปลอดภัยให้มากขึ้นด้วยระบบเข็มขัดนิรภัย 5 จุดสำคัญ และที่กั้นกันตก รวมถึงที่วางเท้า ใช้งานง่าย พับเก็บได้สะดวก
2. DODOLOVE
ราคาเก้าอี้กินข้าวเด็ก 1,290 บาท
เก้าอี้กินข้าวเด็กดูดูเลิฟ ผลิตจาก ABS วัสดุพรีเมี่ยม แข็งแรง ทนทาน สามารถปรับความสูงได้ 3 ระดับ พกพาสะดวกพับเก็บง่ายน้ำหนักเบา จึงทำให้ใช้งานได้อย่างเอนกประสงค์ นอกจากนี้ยังมีเข็มขัดนิรภัย 5 จุด และที่พักเท้า ช่วยป้องกันลูกน้อยไม่ให้หล่นจากโต๊ะ ด้านล่างมาพร้อมช่องใส่ของ สามารถเก็บของเล่น ขนม หรือของจำเป็นอื่น ๆ ได้ อีกทั้งตรงขาเก้าอี้ยางกันลื่น ลดความเสี่ยงต่อการลื่นไถลและหกล้ม โดยสีสันของเก้าอี้จะมีให้เลือก 3 สีด้วยกัน คือ ฟ้า, ส้ม, ชมพู ดูน่ารักสดใสสุด ๆ
3. IKEA ANTILOP
ราคาเก้าอี้กินข้าวเด็ก 869 บาท
เก้าอี้เด็กทรงสูง IKEA ANTILOP รุ่นนี้จะช่วยให้เด็กนั่งร่วมโต๊ะกับผู้ใหญ่ได้โดยง่าย เป็นการฝึกทักษะการรับประทานอาหารและการเข้าสังคมของเด็ก ๆ โดยตัวเก้าอี้จะทำจากพลาสติกคุณภาพสูง ปราศจากสารต่าง ๆ ที่อาจทำให้ผิวหนังของเด็กแพ้หรือก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ บนเก้าอี้จะมาพร้อมถาดขอบสูง เพื่อป้องกันน้ำหรือของที่หกบนถาดไหลลงพื้น นอกจากนี้ยังมีเข็มขัดนิรภัยช่วยป้องกันอุบัติเหตุด้วย เหมาะกับการใช้งานสำหรับเด็กอายุ 0-3 ปี
4. Apramo รุ่น Flippa
ราคาเก้าอี้กินข้าวเด็ก 1,890 บาท
Apramo รุ่น Flippa เป็นเก้าอี้กินข้าวเด็กแบบพกพา ที่น้ำหนักเบาเพียง 1.9 กิโลกรัม พับเก็บได้ พกพาสะดวก บริเวณขาเก้าอี้ทำจากอลูมิเนียมจึงมีความทนทาน โดนน้ำได้ไม่เกิดสนิม และรับน้ำหนักได้ถึง 15-20 กิโลกรัม ส่วนตัวถาดเมื่อใช้งานเสร็จแล้ว ก็สามารถถอดออกได้และยังทำความสะอาดง่าย เพียงใช้ผ้าชุบน้ำเช็ด ปลอดภัย วัสดุที่ใช้ได้รับการรับรองมาตรฐาน การันตีโดยรางวัล The innovation Awards 2014 และ Best baby and Toddler Gear 2018
5. High Chair Multifunction
ราคาเก้าอี้กินข้าวเด็ก 625 บาท
คุณพ่อคุณแม่ท่านไหนที่กำลังมองหาความคุ้มค่า บอกเลยว่าเก้าอี้ Multifunction ตอบโจทย์มาก เพราะรองรับการปรับรูปแบบได้ถึง 5 แบบ คือ เก้าอี้ทรงสูง, เก้าอี้ทรงเตี้ย, เก้าอี้นั่งกับพื้น, เก้าอี้บูสเตอร์กับเก้าอี้อื่น และใส่ล้อเลื่อนลากเข็นได้ ผลิตจากพลาสติกพอลิโพรไพลีนคุณภาพสูง แข็งแรง มาพร้อมเบาะรองนั่งหนัง นั่งสบายตัว เช็ดทำความสะอาดง่าย อีกทั้งยังมีที่พักเท้า, พนักพิง, เข็มขัดนิรภัยคาดเอว 3 ทิศทาง รวมถึงกันลื่นใต้ขาเก้าอี้ด้วย เหมาะสำหรับเด็กอายุ 6 เดือน ขึ้นไป หรือตั้งแต่เด็กหัดนั่ง โดยจะรับน้ำหนักได้สูงสุด 25 กิโลกรัม
6. Ozone Baby
ราคาเก้าอี้กินข้าวเด็ก 789 บาท
เก้าอี้กินข้าวทารกสีทูโทน ลวดลายน่ารัก แถมปลอดภัยเพราะผลิตจากพลาสติกพอลิโพรไพลีน BPA FREE มาพร้อมเบาะหนัง PU กันน้ำ กันเชื้อราสะสม ทำความสะอาดได้ง่าย มาพร้อมกับเข็มขัดนิรภัยและที่กั้นกันตก เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กหลุดออกจากที่นั่ง ส่วนถาดรับประทานอาหาร จะใช้วัสดุเกรดสำหรับใส่อาหาร ถอดเช็ดล้างทำความสะอาดได้ง่าย และสามารถปรับเข้า-ออกได้ 3 ระดับ นอกจากนี้ยังน้ำหนักเบาเพียง 4.9 กิโลกรัม เคลื่อนย้ายได้สะดวก พกพาสะดวก รองรับน้ำหนักสูงสุดถึง 40-50 กิโลกรัม
7. BebePlay รุ่น Colorful
ราคาเก้าอี้กินข้าวเด็ก 2,690 บาท
เก้าอี้เด็กดีไซน์สุดคิวท์ต้อง BebePlay รุ่น Colorful เลย ดีไซน์มาเพื่อคุณหนูทุกคน โครงทำจากเหล็กแข็งแรงพิเศษ ปรับสูงได้ 7 ระดับ สามารถใช้ได้กับโต๊ะทุกขนาด และใช้ได้นานตั้งแต่เด็กอายุ 6 เดือน ถึง 5 ขวบเลย ตรงเบาะหนังเป็นเกรดพรีเมี่ยมมีลายการ์ตูนสดใส นั่งสบาย มาพร้อมสายรัดแบบ 5 จุด บวกด้วยถาดอาหารสองชั้นที่ปรับได้ 3 ระดับ ล้างทำความสะอาดง่าย อีกทั้งยังมีพนักพิงและที่รองขาปรับได้ 3 ระดับ ซึ่งสีสันของเก้าอี้จะมีทั้งหมด 5 แบบ คือ สีส้ม สุนัขจิ้งจอก, สีชมพู นกฟลามิงโก้, สีเทา นกฮูก, สีเขียว ไดโนเสาร์ และสีเทาล้วนไม่มีลวดลาย
8. Rockingkids รุ่น Primo High Chair
ราคาเก้าอี้กินข้าวเด็ก 4,690 บาท
เก้าอี้กินข้าวเด็กเอนกประสงค์ Rockingkids ช่วยคุณแม่ให้จัดการทุกอย่างรอบข้างได้อย่างลงตัว ด้วยนวัตกรรม A ดีไซน์ จึงแข็งแรงทนทาน รองรับน้ำหนักได้ถึง 25 กิโลกรัม ส่วนเบาะหนังทำเป็น PU กันน้ำกันเชื้อราสะสม เพื่อความปลอดภัยของลูกน้อย มาพร้อมเข็มขัดนิรภัย 5 ทิศทาง ที่ปรับระดับได้ อีกทั้งยังมีฟังก์ชัน 4-in-1 สามารถปรับพนักพิง, ที่พักเท้า, ความสูง และถาดข้าว ตามความเหมาะสม จึงทำให้ใช้ได้แต่แรกเกิดจนโต ไม่ว่าจะกินนอนนั่งหรือเล่น รองรับทุกกิจกรรมของคุณพ่อคุณแม่และลูกน้อย
9. Saker
ราคาเก้าอี้กินข้าวเด็ก 4,989 บาท
โต๊ะกินข้าวเด็ก Saker ปลอดสารพิษ ปลอดสารอันตรายทุกชนิด ทนทานต่อการใช้งาน ใช้งานง่าย สามารถปรับระดับความสูง-ต่ำได้ถึง 7 ระดับ ปรับเอนเบาะได้ถึง 5 ระดับ ตั้งแต่ 110-150 องศา และยังปรับระดับที่พักเท้าได้ 3 ระดับ รองรับสรีระอย่างถูกต้อง ส่วนตรงเบาะหนังทำจาก PU คุณภาพสูง ทนต่อกรดด่างได้ดี ส่วนถาดอาหารมาในขนาดใหญ่ และปลอดสารก่อมะเร็งที่เป็นอันตราย อีกทั้งยังมาพร้อมเข็มขัดรัดกันตก 5 จุด ปลอดภัยหายห่วง เหมาะกับการใช้งานตั้งแต่เด็กอายุ 6 เดือน ไปจนถึงเด็กโต ประสิทธิภาพคุ้มค่าคุ้มราคาแน่นอน
10. Royal รุ่น Smart Swing
ราคาเก้าอี้กินข้าวเด็ก 6,900 บาท
เก้าอี้เด็ก Royal รุ่น Smart Swing มาในดีไซน์สุดล้ำ ด้วยฟังก์ชั่นเสริมสร้างพัฒนาการให้กับลูกน้อย ควบคุมง่ายผ่าน Smart Phone เป็นทั้งเปลไกวอัตโนมัติ, เครื่องเล่นเพลงเสริมพัฒนาการ และเก้าอี้ทานข้าวอเนกประสงค์ อีกทั้งยังมาพร้อมระบบ Voice Control ที่จะช่วยไกวเปลและมีเสียงเพลงอัตโนมัติเมื่อมีเสียงลูกน้อยร้อง ซึ่งตัวเก้าอี้จะรองรับการปรับระดับเอนนอนได้ 5 ระดับ สูงสุด 170 องศา รองรับสรีระทุกอิริยาบถ มาพร้อมเข็มขัด 5 ทิศทางช่วยปกป้องช่วงคอ บ่า ไหล่ลูกน้อย ส่วนเบาะนั่งทำจาก Cotton Cushion มอบสัมผัสที่นุ่มสบาย และมีล้อด้านหลัง ทำให้เคลื่อนได้ย้ายสะดวก
จะเห็นได้ว่าเก้าอี้กินข้าวเด็กนั้นรองรับการใช้งานได้หลากหลาย ไม่ได้เอาไว้ใช้เพื่อนั่งทานข้าวเท่านั้น แต่สามารถปรับองศาเบาะ, ปรับความสูงต่ำ, เสริมล้อ และอื่น ๆ อีกมากมาย ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการ และทำให้เจ้าตัวเล็กได้สนุกกับการทำกิจกรรมต่าง ๆ มากกว่าที่เคย ซึ่งเก้าอี้เด็กแต่ละยี่ห้อที่วางจำหน่ายอยู่ตอนนี้ ล้วนมีคุณสมบัติในการใช้งานที่แตกต่างกัน อยู่ที่ว่าคุณพ่อคุณแม่สะดวกที่จะเลือกใช้รุ่นไหนและยี่ห้ออะไร และเมื่อได้อ่านข้อมูลที่ควรรู้ก่อนเลือกซื้อกันไปแล้ว ก็อย่าลืมนำไปพิจารณาประกอบการตัดสินใจ เพื่อให้ได้เก้าอี้กินข้าวเด็กที่ตรงใจ และเหมาะสมกับเจ้าตัวเล็กมากที่สุด