“ขวดนม” ถือเป็นไอเทมสำคัญสำที่คุณแม่ต้องซื้อติดบ้านกันไว้อย่างน้อยหนึ่งขวด เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการป้อนนมให้เจ้าตัวเล็กในทุก ๆ วัน และด้วยความที่ขวดนมเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ลูกต้องนำเข้าปาก ดังนั้นจึงควรสะอาด ปลอดภัย และปราศจากสารปนเปื้อนที่อาจเป็นอันตรายต่อร่างกาย แต่ในปัจจุบันขวดนมที่วางจำหน่ายนั้นมีให้เลือกซื้อหลายรูปแบบ หลายยี่ห้อ คุณแม่มือใหม่หลายท่านอาจจะสับสนไม่รู้ว่าจะต้องเลือกอย่างไร วันนี้เราจึงได้รวบรวมข้อมูลที่ควรรู้ก่อนเลือกซื้อขวดนมมาฝากกัน เพื่อให้คุณแม่ทุกคนได้คัดเลือกเพื่อสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกน้อยของคุณ
เลือกขวดนมให้ลูกอย่างไรดี ?
ขวดนมมีหลากหลายประเภท ทั้งขวดนมแก้ว หรือขวดนมพลาสติก อีกทั้งยังมีหลายขนาด ดังนั้นในการเลือกขวดนมที่ดีต้องพิถีพิถันกันหน่อย เรามาดูวิธีการเลือกขวดนมกันดีกว่าว่าจะมีอะไรบ้าง
วัสดุที่ใช้ในการผลิต
วัสดุที่นำมาผลิตขวดนมแต่ละประเภทจะมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป โดยจะมีรายละเอียดดังนี้
- ขวดนมแก้ว : เกิดรอยขีดข่วนยาก ทนต่อความร้อน มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน แถมยังปราศจากสาร BPA ในพลาสติกเมื่อสัมผัสกับความร้อน จึงสามารถใส่เครื่องอบ เครื่องนึ่ง หรือต้มเพื่อทำความสะอาดได้ ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคได้ดีกว่าพลาสติก แต่มีข้อเสียตรงที่น้ำหนักเยอะ และอาจจะตกแตกค่อนข้างง่าย
- ขวดนมพลาสติก : ราคาถูก น้ำหนักเบา หากทำตกก็ไม่แตก ส่วนข้อเสียคือเมื่อใช้งานนาน ๆ อาจมีสาร BPA ปนเปื้อน ดังนั้นแนะนำให้เลือกขวดนมพลาสติกที่ระบุว่าเป็น “BPA-FREE” และทนต่อความร้อนสูง ๆ เช่น ขวดนมที่ผลิตจากพลาสติก Polypropylene (PP) จะทนความร้อนได้สูงถึง 110 องศาเซลเซียส หรือพลาสติกอย่าง PES (Polyethersulfone) และ PPSU (Polyphenylsulfone) จะสามารถทนความร้อนถึง 180 องศาเซลเซียส จึงไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
- ขวดนมซิลิโคน : เป็นขวดนมยอดนิยมในยุคนี้ เนื่องจากผลิตด้วยวัสดุธรรมชาติ ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อลูกน้อย มีคุณสมบัติในการทนความร้อนได้ระดับสูงสุดถึง 180 องศา จึงทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคได้ดี ไม่เพียงเท่านั้นยังมีน้ำหนักเบา ใช้งานง่าย ไม่มีสาร BPA แถมมีอายุการใช้งานที่ยาวนานด้วย ตอบโจทย์การใช้งานอย่างรอบด้านจริง ๆ
รูปทรงของขวดนม
คุณแม่มือใหม่หลายท่านอาจจะไม่ทราบว่ารูปทรงขวดนมมีผลต่ออาการโคลิคและแก๊สในกระเพาะของเจ้าหนูด้วย หากเลือกได้อย่างเหมาะสมก็จะช่วยให้ลูกร้องงอแงน้อยลงได้ด้วย
- ขวดนมคอกว้าง : ฐานของจุกนมจะมีความกว้าง มีลักษณะคล้ายนมแม่ ทำให้ทารกดูดนมได้อย่างคุ้นเคย นอกจากนี้ยังช่วยลดปัญหาท้องอืด ท้องเฟ้อ หรืออาการโคลิค เพราะเด็กไม่ต้องกลืนอากาศในขณะดูดนม แถมยังล้างทำความสะอาดได้ง่ายด้วย แต่ข้อเสียอยู่ตรงที่ทารกจะจับถือเพื่อดูดได้ลำบาก และมีราคาสูง
- ขวดนมคอแคบ : รูปทรงของขวดนมชนิดนี้มีการงอบริเวณคอขวด เพื่อไม่ให้อากาศเข้าไปในจุกนมระหว่างการดูดนม ช่วยป้องกันอาการแน่นท้อง ท้องอืดของลูกน้อยได้ อีกทั้งยังดูดนมได้สะดวก แม้เด็กจะนั่งหรือนอน ก็ดูดได้โดยที่ไม่ต้องยกขวดขึ้น แต่ข้อเสียนั้นมีอยู่ว่า ตัวขวดนมจะล้างยากกว่าขวดนมคอกว้าง จึงต้องระมัดระวังในจุดนี้เป็นพิเศษ
ขนาดที่เหมาะสมกับช่วงวัย
โดยทั่วไปแล้วขนาดของขวดนมจะมีให้เลือก 3 ไซซ์ด้วยกัน นั่นก็คือ
- SS และ S (ความจุประมาณ 3-5 ออนซ์) : เหมาะสำหรับเด็กแรกเกิดไปจนถึง 3 เดือน
- M (ความจุประมาณ 5-7ออนซ์) : เหมาะสำหรับเด็กอายุ 3-6 เดือน
- L (ความจุประมาณ 7-11 ออนซ์) : เหมาะสำหรับเด็กอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป
รูปร่างของจุกนม
แม้ว่าขวดนมจะมาพร้อมจุกนม แต่ถ้าลูกน้อยของคุณมีความต้องการแบบพิเศษก็สามารถซื้อจุกนมมาเปลี่ยนได้ ซึ่งประเภทของจุกนมจะแบ่งออกได้ดังนี้
- ปลายกลม : เป็นจุกนมธรรมดา โดยลักษณะจะมีปลายจุกกลมมนทรงคล้ายระฆัง เมื่อดูดแล้วน้ำนมจะไหลออมาง่ายอย่างเป็นธรรมชาติโดยที่ไม่ต้องออกแรงดูดมาก จึงเหมาะกับเด็กแรกเกิด
- ปลายแบนเรียบ : มีคอและฐานกว้าง โดยปลายจุกจะแบนราบ ให้ความรู้สึกคล้ายกับดูดนมจากหน้าอกของคุณแม่ เหมาะสำหรับใช้เพื่อเปลี่ยนให้เด็กดื่มนมจากขวดแทนการดื่มจากอกแม่
- ปลายแหลมแบน : ถูกออกแบบมาให้รองรับเพดานปาก เหงือก และลิ้นของเด็ก ซึ่งบริเวณปลายที่แบนออก จะพอดีกับลิ้นในขณะที่เด็กดูดนม ทำให้ดูดได้ง่ายยิ่งขึ้น
ขวดนมยี่ห้อไหนดี ?
7 ยี่ห้อขวดนมที่เราคัดสรรมา ล้วนปลอดภัย มีมาตรฐาน ราคาสมเหตุสมผล ตอบโจทย์ความต้องการของทั้งคุณแม่และลูก ส่วนจะมียี่ห้อไหนบ้าง เรามาดูกันเถอะ
1. Philips AVENT รุ่น Natural
ขวดนม ราคาเริ่มต้นที่ 279 บาท
ขวดนม Philips AVENT เป็นขวดนมพลาสติกคุณภาพสูง ปลอดภัย โดยทำมาจาก Polypropylene (PP) ปราศจากสาร BPA ตัวจุกออกแบบพิเศษให้คล้ายเต้านมของแม่ ทั้งความนิ่มและรูปทรง เหมาะสำหรับใช้กับเด็กทารกแรกเกิด มาพร้อมอุปกรณ์แอร์ฟรีเวนเพื่อป้องกันอากาศเข้าไปที่จุกนม ช่วยป้องกันอาการโคลิค ลดอาการไม่สบายท้อง ไปจนถึงการแหวะนม (Reflux) ยิ่งไปกว่านั้นดีไซน์ของขวดยังเป็นแบบกว้าง ทำให้ใช้งานง่าย และถอดล้างทำความสะอาดง่าย
2. Pigeon รุ่น SofTouch PPSU
ขวดนม ราคาเริ่มต้นที่ 375 บาท
ขวดนมพีเจ้น ผลิตจากวัสดุเกรดพรีเมี่ยมอย่าง Polyphenylsulfone (PPSU) เนื้อวัสดุใช้กันอย่างกว้างขวางในวงการแพทย์ ปลอดสาร BPA และ BPS ทนความร้อนได้ถึง 180 องศา มาพร้อมจุกนมซอฟท์ทัช รุ่นพลัส ที่ออกแบบมาให้ใกล้เคียงกับการดื่มนมจากอกแม่ ยิ่งไปกว่านั้นยังล้ำสมัยด้วย Air Ventilation System (AVS) การไหลเวียนของอากาศ นวัตกรรมฉพาะจากพีเจ้น ช่วยปรับสมดุลภายความดันอากาศภายในขวด ลดปัญหาท้องอืด ทำให้ลูกน้อยรู้สึกสบายท้อง หมดปัญหาโคลิค
3. Dr.Betta
ขวดนม ราคาเริ่มต้นที่ 1,095 บาท
ขวดนม Dr.Betta เป็นแบรนด์ของประเทศญี่ปุ่น ออกแบบมาในขวดทรงโค้ง ทำมาจากพลาสติก PPSU ปราศจากสาร BPA แข็งแรงทนทาน ทนความร้อนสูงสุด 180 องศา เป็นขวดนมที่แนะนำโดยกุมารแพทย์และผู้เชี่ยวชาญ จึงรองรับความต้องการของแม่และเด็กได้ครบทุกมิติ สามารถใช้ป้อนนมให้ทารกได้โดยที่ไม่ต้องจับเอนนอน อีกทั้งยังป้องกันการสำลักนมหรือแหวะนม ถึงแม้จะเป็นขวดนมราคาสูง แต่หากเทียบกับคุณภาพและอายุการใช้งานที่ยาวนาน 2 ปี ถือว่าคุ้มค่ามาก ๆ
4. Attoon รุ่น Tritan Extra Gold Wide Neck
ขวดนม ราคาเริ่มต้นที่ 75 บาท
คุณแม่ท่านใดที่กำลังมองหาขวดนมราคาไม่แพงแต่คุณภาพดี ขวดนม Attoon ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ โดยวัสดุที่นำมาผลิตจะเป็นพลาสติกที่ปราศจากสาร BPA และสารอันตราย สามารถทนความร้อนสูงถึง 110 องศา ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของอเมริกาว่าเป็นวัสดุที่ใช้ผลิตภาชนะบรรจุอาหารและสามารถใช้ซ้ำได้ ปลอดภัยกับลูกน้อย อีกทั้งยังมาพร้อมจุกนม Anti-Colic กับวาล์วระบายอากาศคู่ ช่วยให้ระบบการหมุนเวียนอากาศภายในขวดนมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ลดการเกิดโคลิคได้เป็นอย่างดี
5. Pureen รุ่น Tritan
ขวดนม ราคาเริ่มต้นที่ 135 บาท
ขวดนมเพียวรีน แข็งแรงทนทาน ทำมาจาก Polypropylene (PP) สามารถทนความร้อนสูงถึง 100 องศาเซล ปลอดภัยสำหรับลูกน้อย ทำความสะอาดง่าย มีรูปทรงให้เลือกหลากหลายตอบโจทย์ทุกการใช้งาน มาพร้อมจุกแอนตี้โคลิค บวกด้วยวาล์วระบายอากาศแบบคู่ ช่วยให้ระบบการหมุนเวียนอากาศภายในขวดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ แถมจุกนมยังนิ่มและยืดหยุ่นสูง ช่วยให้ลิ้นของทารกเคลื่อนไหวอย่างเป็นธรรมชาติ
6. Mama’s Choice รุ่น Anti Colic Baby Bottle
ขวดนม ราคาเริ่มต้นที่ 399 บาท
ขวดนม Mama’s Choice Anti Colic Baby Bottle ออกแบบมาเป็นพิเศษ เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้ทารกเกิดอาการโคลิค โดยตรงจุกนมจะมีตัวล็อกกันอากาศ ป้องกันลมเข้าท้อง ลดโอกาสที่ลูกน้อยจะท้องอืด ท้องเฟ้อ ส่วนตัวขวดผลิตจากซิลิโคน Food Grade ไร้สารเคมีปนเปื้อน ปลอดภัย แถมยังยืดหยุ่น สามารถบีบได้ ช่วยให้เจ้าตัวเล็กได้ฝึกกล้ามเนื้อไปในตัว ไม่เพียงเท่านั้นบริเวณคอขวดนมยังกว้างกว่าขวดนมทั่วไป ช่วยให้คุณแม่เทนมใส่ได้ง่าย และทำความสะอาดได้ง่ายด้วย
7. BABY TATTOO รุ่น Nanosilver Silicone
ขวดนม ราคาเริ่มต้นที่ 289 บาท
และขวดนมยี่ห้อสุดท้ายที่เราคัดสรรมาให้ก็คือ BABY TATTOO เป็นขวดนมซิลิโคน รุ่นนาโนซิลเวอร์ที่มีคุณสมบัติในการต้านเชื้อแบคทีเรีย โดยตัวขวดทำจากซิลิโคนนิ่มสามารถบีบเพื่อป้อนนมได้ มาพร้อมด้ามจับทั้ง 2 ข้าง ช่วยให้จับได้สะดวกมากขึ้น แถมภายในก้นขวดยังมีลูกบอลแรงโน้มถ่วง 360 องศา เพื่อรับกับมือของทารกในการดื่มนมท่าต่าง ๆ ไม่ว่าจะนั่ง นอน หรือตะแคงก็ทำได้สบาย ส่วนจุกนมจะมีรูอากาศทิศทางเดียวกัน เพื่อป้องกันไม่ให้ทารกสูดอากาศเข้าไปมากเกินไป ป้องกันการสำลักนมและอาการอื่น ๆ
จบไปแล้วกับวิธีการเลือกขวดนม รวมถึง 7 ยี่ห้อดังคุณภาพดีที่เราคัดสรรมาให้ ต่อไปหากคุณแม่ต้องการเลือกขวดนมให้กับเจ้าตัวเล็ก ก็จะมีความรู้อย่างเต็มเปี่ยม และสามารถเลือกขวดนมที่เหมาะสมกับลูกรักได้แบบไร้กังวล สุดท้ายนี้คุณพ่อคุณแม่อย่าลืมที่จะดูแลความสะอาดขวดนม และสังเกตว่าขวดนมที่มีอยู่นั้น ถึงเวลาที่จะเปลี่ยนเป็นขวดใหม่หรือยัง เพื่อสุขภาพที่ดีที่สุดของลูกน้อย
